ตอนที่ 592 โจมตีเมืองสปิริตราชวงศ์

"พี่หาน ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว พวกเราสามารถบุกโจมตีเมืองสปิริตราชวงศ์เมื่อไหร่ก็ได้"


ชีซิวเหวินกลับมาที่เมืองแบล็คก็อต และรายงานหานเซิ่นว่าการเจรจากับอีก 2 เมืองเป็นไปได้ด้วยดี หลี่ซิงหลุนและฟิลิปยอมร่วมมือไปบุกยึดเมืองสปิริตแล้ว


"ทำดีมาก พวกเราจะทำตามแผนของนาย" หานเซิ่นดูแผนการที่ชีซิวเหวินเป็นคนคิดขึ้นมา


"พี่หาน อย่าห่วงเลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง พวกเราจะต้องยึดเมืองสปิริตได้อย่างแน่นอน" ชีซิวเหวินบอกกับหานเซิ่น แต่ในใจของเขากำลังคิด 'พวกเราจะยึดเมืองสปิริตได้ แต่ผู้ครองเมืองจะไม่ใช่นายหรอก หานเซิ่น แต่คือฉันคนนี้!"


หานเซิ่นมองชีซิวเหวินด้วยสายตาที่ชื่นชม เขายิ้มพร้อมกับลูบไหล่ของชีซิวเหวิน "แน่นอน ฉันเชื่อนาย"


หานเซิ่นไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรยุ่งยากด้วยตัวเอง เขาจะมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นเจอเรื่องยุ่งๆมากกว่า


หลังจากที่ชีซิวเหวินออกไปแล้ว หยางม่านลี่ก็เข้ามาหาหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล "มันจะไม่เป็นไรจริงๆหรอที่ให้ชีซิวเหวินเป็นคนจัดการแผนการโจมตีทั้งหมด?"


หานเซิ่นยิ้ม "เมืองเเบล็คก็อตยังอยู่ใต้อิทธิพลของชีตงลี่ การให้ชีซิวเหวินเป็นคนจัดการเรื่องนี้จะเป็นไปได้ง่ายกว่า นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี"


"แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หลังจากที่เรายึดเมืองสปิรตได้แล้ว"


หยางม่านลี่ขมวดคิ้ว เธอไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนกับหานเซิ่น ตอนนี้เธอรู้สึกเครียดมาก


"อย่าห่วงเลย ยังไงเมืองสปิริตจะต้องเป็นของฉัน" หานเซิ่นตอบ


หยางม่านลี่เห็นว่าหานเซิ่นดูจะมั่นใจมาก ถึงเธอจะยังคงเป็นห่วงอยู่ แต่เธอก็เบาความกังวลไปได้บ้าง


ตอนนี้กองทัพจากหลายเมืองเคลื่อนพลเข้าไปใกล้ๆเมืองสปิริตราชวงศ์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำการเคลียร์พื้นที่รอบๆเมืองสปิริต เพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่กำลังใกล้เข้ามา


เมื่อทุกคนเตรียมตัวพร้อมหมดแล้ว พวกเขาก็แบ่งกันออกเป็น  3 กลุ่ม และแยกกันไปโจมตีเมืองจากคนละทิศทาง


กลุ่มของหานเซิ่นคือกลุ่มที่ทรงพลังที่สุด พวกเขารับหน้าที่ในการบุกโจมตีทางประตูหลัก หานเซิ่นทำตามแผนการของชีซิวเหวินโดยไม่มีข้อโต้แย้งแม้แต่น้อย


เมื่อเห็นเช่นนั้น ชีซิวเหวินก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา เขาเชื่อว่าหานเซิ่นคงไว้ใจเขามาก ตอนนี้เขาสามารถควบคุมหานเซิ่นให้อยู่ในกำมือได้แล้ว ไม่งั้นเขาคงจะไม่ยอมทำตามถึงขนาดนี้


'รอให้ฉันยึดเมืองสปิริตได้ก่อน ถ้าเขายอมเชื่อฟัง เราก็จะไว้ชีวิตเขา' ตอนนี้ชีซิวเหวินกำลังคิดว่าควรทำยังไงกับหานเซิ่นดี หลังจากที่ทุกอย่างจบแล้ว แต่ไม่นานนักเขาก็เกิดลังเลขึ้นมา 'คนประเภทนี้คงไม่เหมาะกับหน้าที่หรือตำแหน่งสำคัญ แต่ยังไงก็ต้องเก็บเขาไว้เพื่อที่คนอื่นจะไม่ได้วิจารณ์เรามาก'


หลังจากการบุกโจมตีเริ่ม มอนสเตอร์ที่อยู่หลังกำแพงก็ส่งเสียงคำรามจนได้ยินได้ไกลเป็นไมล์ๆ สร้างความกดดันให้กับคนที่กำลังบุกเข้าไป แต่ยังไงพวกเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะถอยแล้ว ตอนนี้ทุกคนเข้าปะทะกับมอนสเตอร์ตามจุดที่ตัวเองได้รับมอบหมาย


บนภูเขาหิมะที่อยู่ไม่ไกล มีหญิงรูปงามกำลังเฝ้ามองดูการต่อสู้ครั้งนี้ เธอพูดกับตัวเอง "ขอดูให้ชัดๆหน่อยว่านายแข็งแกร่งแค่ไหน"


จากระยะไกลที่อีกฝากของสนามรบ มีสาวน้อยกำลังยืนสังเกตการณ์การต่อสู้ครั้งนี้อยู่ ผมสีดำของเธอยาวจนเกือบจะถึงพื้น เธอกำลังอุ้มจิ้งจอกสีเงินอยู่


แม้หานเซิ่นจะได้รับหน้าที่ให้บุกเข้าประตูหลัก แต่คนที่ติดตามเขามีแค่คนจากกลุ่มเทพธิดาเท่านั้น ซึ่งพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก ส่วนกองทัพหลักที่จะบุกเข้าตีประตูหลักจะอยู่ภายใต้คำสั่งของชีซิวเหวิน


ในตอนนี้ชีซิวเหวินยังไม่เห็นสปิริตผมสีเงินปรากฏตัวออกมาเลย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ชีซิวเหวินยังไม่รู้ว่าตอนนี้สปิริตจะไม่มีทางออกมาจากวิหาร เนื่องจากพวกเธอกลัวว่าหานเซิ่นจะบุกเข้าไปขโมยสปิริตสโตน


หานเซิ่นสวมชุดเกราะเกล็ดโลหิตและถือดาบคู่ เขานำหยางม่านลี่และคนสนิทของเขาบุกเข้าโจมตีที่ประตูหลัก


ชีซิวเหวินมอบหมายหน้าที่บุกเข้าโจมตีแนวหน้าสุดให้กับหานเซิ่น ซึ่งตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งที่มอนสเตอร์แข็งแกร่งที่สุด เขาหวังให้มอนสเตอร์กำจัดคนสนิทของหานเซิ่นได้สัก 3-4 คนหรือไม่ก็ทั้งหมดเลยก็ยิ่งดี


แต่แทนที่พวกเขาจะค่อยๆบุกเข้าไป หานเซิ่นและคนของเขากับตัดสินใจรีบฝ่าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เมื่อชีซิวเหวินเห็น เขาก็ส่ายหน้า 'คนๆนี้แม้จะกล้าหาญ แต่เขาโง่เกินไป เขาไม่เหมาะที่จะทำงานใหญ่'


ขณะที่ชีซิวเหวินกำลังคิดอยู่ เขาก็รู้สึกว่าแผนดินกำลังไหว พื้นที่รอบๆเมืองสปิริตราชวงศ์สั่นสะเทือน จากนั้นแมลงสีเงินจำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลออกมาจากรอยแยกบนพื้น ราวกับน้ำป่าไหลทะลัก


การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น แต่แมลงสีเงินก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว มันต่างจากครั้งที่แล้ว ที่แมลงจะออกมาช้ากว่านี้


ชีซิวเหวินขมวดคิ้ว แต่กระนั้นเขาก็เตรียมการสำหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถโน้มน้าวฟิลิปและหลี่ซิงหลุนให้มาร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ได้


สัญญาณเตือนถูกส่งออกไป จากนั้นทหารทั้งหมดก็เปิดกระเป่าเป้ของตัวเอง และขว้างเนื้อจำนวนมากไปทั่วสนามรบ ในชั่วพริบตาพื้นหิมะก็เต็มไปด้วยเลือดของมอนสเตอร์จำนวนมาก


แมลงสีเงินไม่ได้แยกมิตรหรือศัตรู พวกมันไม่รู้อะไรเลย พวกมันจะโจมตีทุกอย่างที่เห็น เมื่อพวกมันได้กลิ่นเลือด พวกเขาก็พุ่งเข้าไปทันที ตอนนี้พวกมันต่างก็เข้าไปแย่งกันกินเนื้อจำนวนมากในสนามรบ


"ตอนนี้แหละรีบบุกเข้าไป!" ชีซิวเหวินตะโกน พวกผู้วิวัฒนาการหลบแมลงสีเงิน และก็เริ่มวิ่งตรงไปข้างหน้าทันที พวกเขาบุกเข้าไปประชิดเมืองสปิริตราชวงศ์อย่างรวดเร็ว


แต่เมื่อชีซิวเหวินหันไปมองที่ประตูหลัก เขาก็เห็นหานเซิ่นและผู้ติดตามเข้าไปข้างในเรียบร้อยแล้ว ความเร็วในการเคลียร์ทางของพวกเขาทำให้เขาช็อคมาก


มอนสเตอร์ที่เฝ้าหน้าประตูหลักนั้นแข็งแกร่งที่สุด แม้กระนั้นหานเซิ่นและผู้ติดตามก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย หานเซิ่นเป็นแนวหน้า เขาถือดาบคู่ในมือ เล่มหนึ่งสีเงิน เล่มหนึ่งสีม่วงแดง เขาต่อสู้ราวกับเต้นระบำ มอนสเตอร์ที่ไม่ใช่ระดับเลือดศักดิ์สิทธิทุกตัวจะตายด้วยการโจมตีครั้งเดียว ไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนขวางทางของเขาได้ เลือดสาดกระจายไปทุกที่


"เป็นวิชาที่น่ากลัวจริงๆ แต่ยังไงเขาก็เป็นคนที่โง่อยู่ดี"


ชีซิวเหวินมองไปที่ท้องฟ้าเหนือเมืองสปิริตราชวงศ์ เขาคิด 'เมืองนี้มีมอนสเตอร์อยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาคงจะเข้าถึงใจกลางได้ไม่ง่ายแน่ ตอนนี้อสูรอัสนีกำลังบุกเข้ามาจากอีกด้าน พวกเขาน่าจะถึงวิหารที่เป็นที่ตั้งของสปิริตสโตนก่อนหานเซิ่น ได้แต่หวังว่าเขาจะได้รับความภักดีจากสปิริต แต่ยังไงสปิริตราชวงศ์ที่ครองเมืองนี้อยู่ก็แข็งแกร่งมาก หวังว่าเขาจะรับมือได้!"


ขณะที่ชีซิวเหวินกำลังคิด เขาก็เห็นหานเซิ่นนำคนบุกเข้าไปในเมืองแล้ว เพราะแมลงสีเงินปรากฏตัวออกมา พวกมอนสเตอร์เลยตกอยู่ในความโกลาหล ทำให้หานเซิ่นฝ่าเข้าไปในเมืองง่ายขึ้นมาก


ชีซิวเหวินไม่กล้าที่จะรอช้า เขารีบวิ่งตรงเข้าไปในเมืองจากอีกทางหนึ่ง แต่เขายังคิดว่าไม่จำเป็นต้องรีบมากนัก ยังไงไม่มีทางที่หานเซิ่นจะไวกว่าอสูรอัสนี ตอนที่หานเซิ่นไปถึง อสูรอัสนีก็น่าจะทำลายสปิริตสโตนไปแล้ว


แต่ทว่าชีซิวเหวินไม่ได้สังเกตเลยว่าในช่วงที่ทุกอย่างกำลังโกลาหลอยู่นั้นมีจิ้งจอกสีเงินตัวหนึ่งวิ่งฝ่าเข้าเมืองไป มันกำลังวิ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่นจากอีกด้าน ไม่มีมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียวกล้าขวางทางวิ่งของมัน


หยางม่านลี่ จูถิง ลุงชิงและคนอื่นๆที่เหลือ พวกเขากำลังติดตามหานเซิ่นไปที่ใจกลางของเมืองสปิริตราชวงศ์ หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในเมืองได้ พวกเขาก็ต้องช็อคกับจำนวนมอนสเตอร์ภายในเมือง มันมีเยอะกว่าข้างนอก ที่สำคัญมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิรวมอยู่ด้วยหลายตัว แต่ดูเหมือนสปิริตจะไม่ได้เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย


"มีมอนสเตอร์อยู่เยอะเกินไป พวกเราควรจะรอกำลังเสริมก่อนไหม?"


จูถิงมองไปรอบๆด้วยความวิตกกังวล พวกเขาคือกลุ่มเดียวที่เข้ามาลึกขนาดนี้


"ไม่ต้องรอ" ในขณะที่หานเซิ่นกำลังพูด จิ้งจอกสีเงินก็กระโดดขึ้นมาอยู่บนไหล่ของหานเซิ่น


VIPถึงตอนที่ 1665 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGen 

ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/