ตอนที่ 446 เนื้อเป็นภูเขา

หานเซิ่นกำลังมองดูวิญญาณอสูรที่เขามีทั้งหมด และในที่สุดเขาก็เล็งไปที่วิญญาณอสูรบลัดสเนล มันคือชุดเกราะสัตว์เลี้ยงขั้นสุดยอด แต่ตอนนี้มันไร้ประสิทธิภาพ เมื่ออยู่ต่อหน้ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2


หานเซิ่นตัดสินใจว่าจะใช้มันเป็นตัวทดลองคริสตัลสีดำ


วิญญาณอสูรมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเข้ามาล้อมรอบคริสตัลสีดำ ขณะที่อาร์คแองเจิลไม่สนใจมันแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะคริสตัลสีดำไม่มีประโยชน์ต่อเธอแล้วหรือเป็นเพราะว่าหล่อนยังไม่เปลี่ยนร่างเลยไม่สนใจมันตอนนี้


ด้วยคำสั่งของหานเซิ่น บลัดสเนลเคลื่อนที่เข้าไปหาคริสตัลสีดำอย่างมีความสุข และกลืนคริสตัลเข้าไปทันที


คล้ายๆกับอาร์คแองเจิล แสงเริ่มรวมตัวกันเป็นรังไหมห่อหุ้มบลัดเนลเอาไว้


หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อน ยังไงมันก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าการป้อนคริสตัลสีดำให้วิญญาณอสูรกินได้ผลที่เร็วกว่าการป้อนให้มอนสเตอร์กิน ในกรณีของอาร์คแองเจิล หล่อนก็ใช้เวลาไม่นาน สำหรับบลัดสเนลก็น่าจะใช้เวลาประมาน 1 เดือนเช่นกัน


หานเซิ่นคาดหวังไว้สูงมาก ถ้าสิ่งที่เขาคิดไว้ถูกต้อง มันจะเป็นเรื่องที่วิเศษมากๆ


ภายในถ้ำน้ำแข็ง อสูรเกราะน้ำแข็งเบอร์เซิร์กที่หยางม่านลี่เอากลับมา สร้างความประหลาดใจให้กับคนอื่นๆที่อยู่ในถ้ำมาก


ผู้วิวัฒนาการที่พึ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 กับสามารถฆ่าอสูรเกราะน้ำแข็งในโหมดเบอร์เซิร์กได้ มันเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก


เมื่อเห็นเช่นนั้นบางคนก็พูดว่าคนหนุ่มๆสมัยนี้ฝีมือไม่ธรรมดา แต่บางคนก็บอกว่าเขาแค่โชคดีเท่านั้น


หยางม่านลี่ไม่ได้อธิบายอะไร ถ้าเธอบอกทุกคนว่าหานเซิ่นฆ่ามอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กด้วยหมัดเดียวละก็ คนอื่นๆคงไม่เชื่อแน่


ไม่มีใครเชื่อว่าผู้วิวัฒนาการหน้าใหม่จะสามารถฆ่าอสูรเกราะน้ำแข็งในโหมดเบอร์เซิร์กได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว ถึงจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลือดศักดิสิทธิก็ตาม


ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของหานเซิ่นและอสูรเกราะน้ำแข็ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงแผ่นดินไหว


"พวกมอนสเตอร์มันเจอที่นี่แล้ว และกำลังมาโจมตีพวกเรา?" คนจำนวนมากรู้สึกช็อค พวกเขาไปกองกันอยู่ตรงเครื่องเทเลพอร์ต เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเทเลพอร์ตออกจากก็อตเเซงชัวรี่ ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น


หลังจากผ่านไปสักพัก เสียงนั้นก็หยุดลง พวกเขาได้ยินเสียงตะโกน "ม่านลี่ มาช่วยฉันหน่อย"


หยางม่านลี่ได้ยินอย่างชัดเจน เธอสามารถบอกได้เลยว่านั่นคือเสียงของหานเซิ่น เธอรีบเดินออกไปข้างนอกถ้ำ คนอื่นๆที่กำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก็เดินตามเธอไปเช่นกัน


เมื่อพวกเขาออกมานอกถ้ำแล้ว พวกเขาก็ต้องเบิกตากว้าง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็น


สิงโตตัวสีทองที่ตัวใหญ่เหมือนกับภูเขาลูกย่อมๆกำลังขนซากของมอนสเตอร์จำนวนมาก มีทั้งอสูรเกราะน้ำแข็ง และยังมีมอนสเตอร์กลายพันธ์เช่นหมาป่าหิมะและหมีน้ำแข็งรวมอยู่ด้วย


บนกองซากพวกนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เขาคือหานเซิ่นที่ไม่ฟังคำแนะนำของทุกคน และดึงดันที่จะออกไปล่าคนเดียว


"น้องชาย..หานเซิ่น... พวกนี้เป็นของนายทั้งหมดเลยหรอ?" สวี่โหย่วถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ นี่มันยากที่เชื่อว่าจะได้ หลายคนพยายามขยี้ตาตัวเองแรงๆ


ทุกคนมีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน พวกเขาอยู่ที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครล่าได้มากมายขนาดนี้มาก่อน ยิ่งกว่านั้นซากพวกนั้นยังมีมอนสเตอร์กลายพันธ์รวมอยู่ด้วย


คนจำนวนมากรู้สึกแบบเดียวกับสวี่โหย่ว พวกเขาคิดว่าต้องฝันไปแน่ๆ ไม่เช่นนั้นทำไมถึงได้มีซากมอนสเตอร์มากมายขนาดนี้? และสัตว์ขี่บ้าอะไรจะตัวใหญ่ขนาดนั้น?


หยางม่านลี่มองหานเซิ่นด้วยสีหน้าแปลกๆ เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอเพิ่งจะพูดกับหานเซิ่นว่าไม่มีทางที่จะยึดเมืองสปิริตได้ แต่ตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับซากมอนสเตอร์จำนวนมากแม้แต่มอนสเตอร์กลายพันธ์ก็มี ในเวลาสั้นๆแค่นี้


'หรือบางทีเขาอาจจะยึดเมืองสปิริตได้จริงๆ?' หยางม่านลี่มองหานเซิ่นและคิด


ชายหนุ่มคนที่เธอเคยดูถูก เติบโตได้เร็วขนาดนี้ เขาทำได้เหนือกว่าที่เธอคาดคิดมาก


"จะพูดแบบนั้นก็ได้" หานเซิ่นเล่าเรื่องเกี่ยวกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่เขาเจอ รวมถึงเรื่องสปิริตขุนนางให้ทุกคนฟัง


อย่างไรก็ตามที่เขาเล่าให้ทุกคนฟังเป็นเวอร์ชั่นที่ดัดแปลงแล้ว ซึ่งเขาบอกว่าเขาได้เห็นการต่อสู้ของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ 3 ตัว รวมถึงสปิริตขุนนาง และเขาก็ฉวยโอกาสเก็บซากพวกนี้มาตอนที่พวกมันบาดเจ็บหนัก


"ดูนี่สิ ขาของนกตัวที่ว่าถูกมอนสเตอร์อีกตัวหนึ่งกัด โชคร้ายที่มันเสียแค่ขา ทำให้มันบินหนีไปได้ ฉันเลยได้มาแค่ขา" หานเซิ่นยกขาของนกขึ้นมา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาร์คแองเจิลเหลือเอาไว้


ทุกคนมองหานเซิ่นด้วยความชื่นชม พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นโชคดีมากที่เขาสามารถรวบรวมซากอสูรเกราะน้ำแข็ง และมอนสเตอร์กลายพันธ์ได้มากขนาดนี้ ที่สำคัญยังได้ขาของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิมาด้วย เทพีแห่งโชคลาภคงจะถูกชะตากับเขา


ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่หานเซิ่นเล่าให้ฟังเลย หลายคนอยู่ที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว และพวกเขาหลายคนก็เคยเห็นแมงมุมยักษ์และนกสีดำ รวมถึงสปิริตขุนนาง สำหรับคนที่พึ่งจะมาที่นี่ แต่สามารถเล่าได้ละเอียดขนาดนี้ แสดงว่าหานเซิ่นต้องเห็นพวกมันมากับตาแน่นอน ไม่งั้นเขาจะรู้จักพวกมันได้ยังไง?


"น้องชายโชคดีจริงๆ" สวี่โหย่วมองที่กองซากมอนสเตอร์และถาม "นายคิดจะทำยังไงกับพวกมัน? นายคงไม่สามารถกินมันได้หมดแน่ สนใจจะขายให้พวกเราไหม? ทุกคนที่นี่คงยินดีจะให้ราคาที่ดี"


ขณะที่สวี่โหย่วพูด สายตาของทุกคนก็จ้องไปที่หานเซิ่น พวกเขาต้องการเนื้อของมอนสเตอร์พวกนี้ใจจะขาด โดยเฉพาะมอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์ หลายๆคนตื่นเต้นมากจนตาของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง


"แน่นอน ซากทั้งหมดมีไว้ขาย" หานเซิ่นพูดอย่างแน่วแน่


"ฉันขอซื้อ อสูรเกราะน้ำแข็ง 1 แสนดอลลาร์"


"ฉันให้ 1 แสน 5 หมื่นเลย.."


ทันทีที่หานเซิ่นพูดจบ ทุกคนก็เริ่มตะโกนราคากัน


"ฉันจะขายพวกมัน แต่สำหรับสมาชิกในกลุ่มเท่านั้น ถ้าคนอื่นๆจะซื้อ ราคาจะเป็น 2 เท่า และฉันจะรับแค่ใบอนุญาตของสถาบันเซนท์ระดับ A ขึ้นไปเท่านั้น" หานเซิ่นพูด ที่เขาเอาเนื้อกลับมาเป็นจำนวนมาก เขาไม่ได้ต้องการเงิน


"น้องชายหมายความว่ายังไง?" สวี่โหย่วถาม ทุกคนต่างก็งง


"ฉันจะจัดตั้งกลุ่มขึ้นมา ใครก็ตามที่เข้าร่วมกลุ่มของฉันจะสามารถซื้อเนื้อพวกนี้ได้ด้วยราคาสมาชิก และยังจะได้ประโยชน์อะไรอีกหลายอย่าง ถ้าเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม" หานเซิ่นพูด


ในอนาคต เขาต้องไปยึดเมืองสปิริตอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาต้องการคนอีกมาก ตัวเขาคนเดียวไม่สามารถดูแลหรือบริหารจัดการเมืองได้ และเขาก็คงจะไม่ได้อยู่ในเมืองตลอดเวลา เขาต้องรับคนที่มีความสามารถในการต่อสู้เข้ามาเป็นผู้ติดตาม เพื่อช่วยเขาป้องกันเมือง ด้วยวิธีนี้ในอนาคตถ้ามีใครถูกส่งมาลงที่นี่ พวกเขาก็จะต้องทำตามกฎที่หานเซิ่นกำหนดเอาไว้


 VIPถึงตอนที่ 1343  เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/
ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/