ตอนที่ 137 วอเฟรมหนัก

ซื่อจื้อคังตกตะลึงกับคำตอบ แต่เขาก็ไม่อยากกลับคำพูด ทำให้เขาต้องจำใจเข้าชมรม


ในเช้าวันรุ่งขึ้น หวังเหมียนเหมียนส่งเอกสารการสมัครและรายละเอียดเกี่ยวกับชมรมไปให้พวกเขาทั้ง 4 คน


โชคดีที่ยังมี หวังเหมียนเหมียน หวังชุนและหลี่เจินเจิน ไม่อย่างงั้นพวกเขาคงจะทนเข้าชมรมวอเฟรมหนักไม่ไหวจริงๆ


แต่เมื่อมาถึงชมรม พวกเขาก็พบว่ามันแย่ยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดไว้ นอกจากหวังเหมียนเหมียน หลี่เจินเจนและหวังชุนแล้ว ชมรมวอเฟรมหนักมีสมาชิกคนอื่นอีกแค่ 2 คนเท่านั้น คือเด็กหนุ่มตัวอ้วนๆกับหนุ่มตัวผอมๆอีกคน


หนุ่มคนอ้วนๆเป็นประธานชมรม ส่วนหนุ่มตัวผอมๆอีกคนเป็นสมาชิกปี 2 หานเซิ่นไม่รู้จักชื่อของพวกเขา เพราะหวังเหมียนเหมียนเรียกพวกเขาว่าประธานอ้วนกับลิงผอม


ประธานอ้วนยิ้มจนปากเกือบจะถึงหู เมื่อเห็นหวังเหมียนเหมียนหาสมาชิกใหม่ที่เป็นผู้ชายมาเข้าชมรมได้ถึง 4 คน แต่รอยยิ้มของเขาก็หายไปทันที เมื่อรู้ว่าพวกเขามาจากหน่วยธนู


เนื่องจากปีนี้หน่วยธนูรับนักเรียนด้วยโควต้าพิเศษ ซึ่งมาตรฐานความแข็งแกร่งของพวกเขาจะต่ำกว่านักเรียนหน่วยอื่นๆ ซึ่งมาตรฐานของนักเรียนหน่วยอื่นจะอยู่ที่ 11 แต่ของหน่วยธนูจะลดลงมาอยู่เพียงแค่ 10 ก็สามารถเข้ามาเรียนได้ ขอแค่ผ่านการทดสอบยิงธนูก็พอ


ความแตกต่างแค่ 1 เรทติ่งก็ถือว่าเป็นช่องว่างที่ใหญ่ ทำให้คนส่วนมากคิดว่านักเรียนหน่วยธนูเป็นนักเรียนที่อ่อนแอที่สุดในเหยี่ยวดำ


บวกกับการปฏิบัติการด้วยวอเฟรมหนักนั้นต้องใช้พละกำลังที่ค่อนข้างมาก ทำให้ประธานอ้วนและลิงผอมค่อนข้างผิดหวัง เมื่อรู้ว่าพวกเขามาจากหน่วยธนู


แต่พวกหานเซิ่นไม่ได้สนใจ พวกเขากรอกแบบฟอร์มการสมัครและส่งให้ประธานอ้วน


"นี่ก็ถือว่าดีนะ อย่างน้อยคู่แข่งของเราก็น้อยลงถ้าอยู่ชมรมนี้ เจ้าอ้วนกับเจ้าผอมนั่นก็ไม่น่าจะเก่งเท่าไหร่" ซื่อจื้อคังพยายามปลอบใจตัวเอง


"พี่หาน ก่อนอื่นพวกเราจะพาพี่ไปชมสนามฝึกซ้อมของชมรมก่อน"
หวังเหมียนเหมียนมีความสุขมากที่หานเซิ่นมาเข้าชมรม เธอกระตือรือร้นที่จะพาพวกเขาเดินชมสถานที่


"เหมียนเหมียน นั่นมันไม่ยุติธรรมเลย ทำไมถึงเรียกหานเซิ่นว่าพี่อยู่คนเดียว ทั้งๆที่พวกเราก็เป็นเด็กใหม่เหมือนกันหมด และหานเซิ่นก็อายุมากเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มเรา เขาแก่กว่าลู่เหมินแค่ไม่กี่วัน" ซื่อจื้อคังพูดอย่างเคร่งขรึม


หวังเหมียนเหมียนเอียงคอครุ่นคิดอย่างจริงจังและพูด
"ฉันแค่คิดว่าพี่หานเหมาะจะเป็นพี่ของฉัน"


"ทำไมล่ะ พวกเราไม่คู่ควรงั้นหรอ?" ซื่อจื้อคังยังข้องใจ เขาโพสต์ท่าโชว์มัดกล้ามของเขา


"มันไม่ได้เกี่ยวกับอายุหรือขนาดร่างกาย"
ดูเหมือนหวังเหมียนเหมียนจะไม่สนใจมัดกล้ามของซื่อจื้อคังเลย


ซื่อจื้อคังหมดคำพูด ซึ่งการที่หวังเหมียนเหมียนเรียกหานเซิ่นว่าพี่ ทำให้หลี่เจินเจินกับหวังชุนเรียกตามไปด้วย


เมื่อมาถึงสนามฝึกซ้อม พวกเขาทั้ง 4 คนก็ต้องช็อค เพราะตอนแรกพวกเขาคิดว่าชมรมที่มีสมาชิกน้อยแบบนี้ก็คงมีสนามฝึกซ้อมเล็กๆ พวกเขาไม่ได้หวังว่าสนามฝึกซ้อมมันจะใหญ่ขนาดนี้ แถมยังมีวอเฟรมหนักของจริงมาให้ฝึกซ้อมแทนการฝึกซ้อมด้วยภาพโฮโลแกรม


"เป็นยังไงบ้าง? เป็นเพราะการต่อลองของเหมียนเหมียนทำให้พวกเราได้ของพวกนี้มา" หวังชุนพูดอย่างภูมิใจ


หานเซิ่นตระหนักทันทีว่าทำไมชมรมเล็กๆแบบนี้ถึงได้มีสถานที่ฝึกและอุปกรณ์ที่พร้อมนัก มันเป็นเพราะอิทธิพลของหวังเหมียนเหมียน


ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นตื่นเต้นมาก เพราะเขาสนใจเรื่องวอเฟรมอยู่แล้ว การฝึกซ้อมวอเฟรมให้ก้าวหน้าจะต้องมีห้องซ้อมและอุปกรณ์ที่พร้อม แม้จะเป็นวอเฟรมหนักก็ตาม ตราบใดที่ยังเป็นวอเฟรม หานเซิ่นก็ต้องการฝึกมัน


แต่วอเฟรมหนักต่างจากวอเฟรมปรกติพอสมควร ทั้งความแข็งแกร่ง ขนาดและแรงขับเคลื่อนก็สูงกว่ามาก ซึ่งมันใช้งานยากกว่าวอเฟรมปรกติมาก โดยปรกติมันจะถูกใช้ในสถานการณ์เฉพาะที่ยากต่อปฏิบัติการด้วยวอเฟรมปรกติ


แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับหานเซิ่น ยิ่งใช้ยากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถ้าเขาใช้มันได้คล่อง วอเฟรมปรกติก็จะง่ายไปเลย


วอเฟรมหนักทั้ง 3 เครื่อง ในสนามฝึกซ้อมคือ 'Rhinoceros T' ' Porter RS' และ ' Builder'


Rhinoceros T เป็นวอเฟรมหนักรูปแบบ 4 เท้า ที่ไว้ใช้สำหรับการขนส่ง ซึ่งมันสามารถบรรทุกของได้เยอะมาก เท้าทั้ง 4 ของมันทำให้ง่ายต่อการเดินในสมรภูมิการรบทุกรูปแบบ อีกทั้งมันยังมีความสามารถในการขุดอุโมงค์ ซึ่งสามารถเอาไปใช้ทำเหมืองได้อีกด้วย


Porter RS เป็นรูปแบบ 4 เท้าเช่นเดียวกัน มันมีแขนและพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งมาก มันสามารถใช้ได้ทั้งสำหรับต่อสู้และขนส่งสิ่งของ ซึ่งมันมาพร้อมกับอาวุธติดตัวหลายอย่าง และยังสามารถติดตั้งอาวุธเพิ่มได้อีก


Builder เป็นวอเฟรมหนัก 2 เท้า ใช้สำหรับการก่อสร้าง มันมีลักษณะใกล้เคียงกับวอเฟรมปรกติ แต่ทว่ามันมีแขน 4 แขน ซึ่งหนักและแข็งแกร่งกว่าวอเฟรมปรกติมาก


ภายในโรงฝึกยังมีเครื่องโฮโลแกรมสำหรับฝึกซ้อมปฏิบัติการด้วยวอเฟรมอีกประมาน 10 เครื่อง ซึ่งทำให้สมาชิกแต่ละคนสามารถใช้กันได้คนละเครื่องเลย


เห็นได้ชัดว่ารูทเมทของเขานั้นไม่ได้สนใจวอเฟรมหนักเท่าไหร่นัก พวกเขาชอบใช้เครื่องโฮโลแกรมจำลอง เพื่อฝึกการใช้งานวอเฟรมปรกติมากกว่า


บางครั้งคนในชมรมก็จะใช้ Rhinoceros T แต่ในขณะที่ Porter RS และ Builder ไม่มีคนใช้เลย ซึ่งพวกมันใช้งานยากกว่ามาก


โดนปรกติแล้วทหารที่มีหน้าที่ใช้วอเฟรมหนักมักจะมียศต่ำ ขณะที่พวกนายทหารระดับสูงๆแทบไม่มีโอกาสต้องใช้วอเฟรมหนักเลย พวกรูทเมทของหานเซิ่นเลยไม่ค่อยสนใจมัน


หานเซิ่นชอบ Porter RS และ Builder มาก เขามักจะใช้พวกมันฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ ถ้าเขามีเวลา ความสามารถในการใช้วอเฟรมของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการที่เขาฝึกกับเครื่องโฮโลแกรมและวอเฟรมของจริง


ขณะที่สมาชิกห้อง 304 กำลังมีความสุขกับการได้เข้าร่วมชมรมวอเฟรมหนัก คนอื่นๆในโรงเรียนก็กำลังยังคงยุ่งอยู่กับการหาตัวแฟนของจีเหยียนหรัน โดยเฉพาะจ้าวเหลียนหัว ซึ่งถูกลิ่วเจี้ยนกั๋วกดดันมาให้รีบหาตัวเขาให้พบ

ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/