ตอนที่ 640 เหาะเหินเดินอากาศ

"น้องหาน ฉันบอกนายไปทุกอย่างแล้ว รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!" เฉินรันร้องขออีกครั้ง


"เฒ่าเฉิน ผมตั้งใจจะช่วยคุณจริงๆ แต่สิ่งที่คุณพูดมามันไม่เป็นความจริง คุณพยายามจะฆ่าผม" หานเซิ่นมองเฉินรันพร้อมกับถอนหายใจ


สีหน้าของเฉินรันเปลี่ยนไปทันที "น้องหาน ทำไมนายพูดแบบนั้น ฉันพูดความจริงทุกอย่าง ในสภาพแบบนี้ฉันจะมีปัญญาไปฆ่านายได้ยังไง?"


"หลังจากผ่านทางเข้าแล้ว ผมควรจะขึ้นไป 9 ขั้นไม่ใช่ลง" หานเซิ่นพูดอย่างเยือกเย็น


สีหน้าของเฉินรันเปลี่ยนไป แต่เขายังคงยืนกรานว่าเขาพูดความจริง
"เป็นไปได้ยังไง? ฉันถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กๆว่าต้องลง 9 ขั้น"


"หลังจากประตูหยก ผมควรไปทางซ้ายและมุ่งหน้าขึ้นไป การป้องกันแห่งบทกวีควรจะเป็น 3 ไม่ใช่ 9 ผมพูดถูกใช่ไหม?" หานเซิ่นทำตาแคบลง ขณะมองเฉินรัน


"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้! ไอ้จูถิง... ไม่... จูถิงไม่น่าจะรู้วิชาเซเว่นทวิสต์.. นาย... หานเซิ่น..." ตอนนี้เฉินรันมองหานเซิ่น เหมือนกับเห็นภูตผีหรือปีศาจ


มีคนจำนวนไม่มากในตระกูลเฉินที่รู้เคล็ดวิชาเซเว่นทวิสต์ เพราะพวกเขากลัวว่าวิชาจะหลุดไปภายนอก นั่นเป็นเหตุผลที่ศิษย์ของตระกูลเฉินส่วนมากจึงได้เรียนแค่ทรีทวิสต์


นอกเหนือจากทรีทวิสต์แล้วที่เหลืออีก 70% เฉินรันสอนหานเซิ่นไปแบบเสริมเติมแต่งทั้งหมด มันต่างจากวิชาฉบับดั่งเดิม แต่ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญวิชานี้จริงๆก็ยากที่จะแยกออกได้ว่าอันไหนของจริงหรือของปลอม


แม้จะถูกสอนวิชาเซเว่นทวิสต์แบบปลอมๆไป แต่ความแตกต่างของมันก็แค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่ว่าใครก็คงคิดว่าเป็นของจริง


ซึ่งถ้านำวิชาของปลอมไปฝึกอย่างต่อเนื่อง มันอาจจะส่งผลให้ธาตุไฟเข้าแทรกจนอาจจะเป็นบ้าได้ ดีไม่ดีก็ถึงตายได้เลย


เฉินรันไม่เข้าใจเลยว่าหานเซิ่นสามารถแยกแยะวิชาเซเว่นทวิสต์ของจริงได้ยังไง


"ฉันให้โอกาสแล้ว แต่ดูเหมือนคุณจะไม่ยอมใช้มันให้คุ้มค่า" หานเซิ่นยกหน้าไม้นกยูงขึ้นมา และเล็งที่เฉินรัน


"ไม่...อย่าฆ่าฉัน...ฉันจะตายไม่ได้...ฉันตายไม่ได้..."


ปัง!


เฉินรันเบิกตากว้าง ด้วยใบหน้าที่สิ้นหวังถึงขีดสุด ลำแสงสีดำพุ่งทะลุหัวของเขา


"คนอย่างแก ถือเป็นศัตรูของฉัน ฉันจะรู้สึกไม่ปลอดภัยถ้าปล่อยแกไว้"
หานเซิ่นเรียกหน้าไม้นกยูงกลับ เขาไม่ต้องการปล่อยเฉินรันไปตั้งแต่แรกแล้ว


หานเซิ่นเผาร่างของเฉินรันตามแผนเดิม จากนั้นเขาก็เก็บขนอีกาทั้งหมดกลับมา และเดินทางไปยังทุ่งน้ำแข็งต่อ


เฉินรันนั้นไม่ได้รู้เลยว่าวิชาเซเว่นทิวสต์ของเขาไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป ตั้งแต่ตอนที่เขาสูดกลิ่นหอมของหานเซิ่นเข้าไปเพื่อรักษาบาดแผล นี่เป็นความมหัศจรรย์ของศาสตร์ตงเสวียน มันเหมือนกับตอนที่เขาขโมยวิชาหมากล้อมสวรรค์จากควีน


แม้เขาจะได้วิชาเซเว่นทวิสต์มาแล้ว แต่เขาก็ต้องฝึกวิชาหมากล้อมสวรรค์เป็นพื้นฐานก่อน จากนั้นเขาถึงจะเริ่มฝึกเซเว่นทวิสต์จริงๆจังๆได้


แม้หานเซิ่นจะขโมยวิชาหมากล้อมสวรรค์มาจากควีนแล้ว แต่การจะฝึกมันให้สำเร็จจริงๆนั้นก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร


ตอนนี้หานเซิ่นยังอยู่ในช่วงกำลังฝึกศาสตร์ตงเสวียนและกายหยก ยากที่เขาจะหาเวลาไปฝึกวิชาอื่น


"สงสัยจริงๆถ้าเราใช้ศาสตร์ตงเสวียนเป็นพื้นฐานแทนหมากล้อมสวรรค์จะเป็นยังไง? แม้เทคนิคในศาสตร์ตงเสวียนจะไม่ได้แตกต่างจากหมากล้อมสวรรค์มาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช้แทนกันได้ไหม"
ภายใต้การปกป้องจากจิ้งจอกสีเงิน ทำให้การเดินทางของหานเซิ่นนั้นราบลื่นมาก ระหว่างการเดินทางหานเซิ่นก็เกิดความคิดที่จะใช้ศาสตร์ตงเสวียนเป็นพื้นฐานแทนหมากล้อมสวรรค์


แม้หานเซิ่นจะใช้ศาสตร์ตงเสวียนขโมยวิชาทั้ง 2 มาแล้ว แต่เขาก็ยังเข้าใจแค่หลักการเท่านั้น เขายังไม่ได้ผ่านการฝึกจริงๆ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับหานเซิ่น


เมื่อหมากล้อมสวรรค์และเซเว่นทวิสต์ใช้ผสานกันได้เมื่อไร เขาก็จะมีพลังที่น่ากลัวมาก


วิชาเซเว่นทวิสต์หลักๆแล้วจะมีทั้งหมด 7 กระบวนท่าในการเคลื่อนไหวบนอากาศ แต่การรวมเอาหมากล้อมสวรรค์เข้าไป การเคลื่อนไหวคงจะไม่ใช่ง่ายๆแน่


แต่ด้วย 2 วิชานี้ เขาจะไม่ต้องการปีกอีกต่อไป เขาสามารถต่อสู้บนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ ซึ่งปรกติแล้วจะมีเพียงผู้เป็นเลิศขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่หานเซิ่นจะสามารถทำมันได้เลยถ้าเขารวมหมากล้อมสวรรค์และเซเว่นทวิสต์เข้าด้วยกัน แต่เขาก็ต้องมีพลังงานที่เพียงพอ เพื่อที่เขาจะสามารถบินบนอากาศได้เหมือนกับนก


ถ้าฝึกสำเร็จเซเว่นทวิสต์จะไม่ใช่เพียงแค่วิชาที่ยืมพลังจากอากาศอีกต่อไป ผลลัพธ์ของมันจะยิ่งกว่านั้นมาก


เฉินรันบอกว่าเขาสามารถบินไปได้เป็นพันๆไมล์ แต่นั่นอาจจะเวอร์เกินไป แต่ยังไงมันก็คงใช้ต่อสู้บนอากาศได้อย่างอิสระแน่นอน ซึ่งแค่นี้มันก็เป็นวิชาที่วิเศษสุดๆแล้ว


แต่การบินได้ก็ต้องมีระดับความแข็งแกร่งและพลังงานที่เยอะมาก ซึ่งศาสตร์ตงเสวียนของเขาก็ยังพัฒนาไปอย่างเชื่องช้า เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะปลดล็อคยีนวิชานี้ได้


ระหว่างการเดินทาง หานเซิ่นฝึกศาสตร์ตงเสวียน หมากล้อมสวรรค์และเซเว่นทวิสต์ไปตลอดทาง


รูปแบบของหมากล้อมสวรรค์เป็นการเคลื่อนไหวตามแนวราบ แต่เมื่อรวมเซเว่นทวิสต์เข้ามา มันจะกลายเป็นการเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ ซึ่งมันจะทรงพลังขึ้นมาก


ด้วยการที่มีจิ้งจอกสีเงินอยู่ด้วย บวกกับแผนที่ที่เขาได้มาจากหวงฟูผิงชิง ทำให้หานเซิ่นมาถึงอีกด้านหนึ่งของภูเขาปีศาจได้อย่างปลอดภัย


พื้นที่บริเวณนี้เป็นของชายที่ชื่อหลูฮุย หานเซิ่นได้ยินมาว่าชายคนนี้คือหัวหน้ากองกำลังสำรองของหน่วยพิเศษบูลบลัด การที่เขาไปถึงตำแหน่งนั้นได้แสดงว่าคนคนนี้เป็นคนที่พิเศษจริงๆ


มีเมืองระดับราชวงศ์ถึง 3 เมืองอยู่ใต้การปกครองของหลูฮุย เขาคือผู้เป็นใหญ่ในแถบนี้ แม้ทางเหนือขึ้นไปจะมีคนอื่นๆปกครองดินแดนของตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะมาท้าทายเขา


หานเซิ่นเคยสืบข้อมูลเกี่ยวกับหลูฮุยมาบ้าง ซึ่งข้อมูลที่เขาได้มาก็ทำให้เขาช็อค ลูกน้องแต่ละคนของหลูฮุยล้วนแต่เป็นสุดยอดนักสู้ พวกเขาแข็งแกร่งกว่าทหารในทุ่งน้ำแข็งมาก


มันเป็นโชคดีของหานเซิ่นที่มีภูเขาปีศาจขวางกั้นทางที่จะไปยังทุ่งน้ำแข็ง ไม่งั้นแล้วทุ่งน้ำแข็งก็คงจะถูกหลูฮุยยึดครองแน่


หานเซิ่นเดินทางผ่านภูเขาปีศาจมา และไม่นานเขาก็เห็นเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่เหนือทุ่งน้ำแข็ง


มีมอนสเตอร์จำนวนมากกำลังบินอยู่เต็มท้องฟ้ารอบๆเกาะลึกลับ ราวกับปีศาจที่กำลังจ้องจะจับเหยื่อ


VIPถึงตอนที่ 1960 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/

ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/