ตอนที่ 574 บุกเดี่ยวเข้าเมืองสปิริต

"จิ้งจอกเงินดูฉันสิ! ฉันน่าสงสารแค่ไหน แค่ฉันจะเลี้ยงตัวเองก็ยากมากพออยู่แล้ว ฉันไม่มีอาหารมากพอ ตอนนี้ฉันไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงนายได้ นายรู้ตัวใช่ไหมว่านายกินมากเกินไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้นายกินเยอะๆ อย่าพึ่งเข้าใจฉันผิด แต่นายก็คงอยากให้คนอื่นกินอิ่มเหมือนกันใช่ไหม? นายออกไปล่าปลาให้ฉันสัก 3-4 ตัวได้ไหม ถ้านายทำแบบนั้น ฉันจะช่วยเอามันมาทำเป็นอาหารให้เอง ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ?" หานเซิ่นยิ้ม ขณะที่เขากำลังพูดกับจิ้งจอกสีเงิน


ซีโร่มองหานเซิ่นด้วยสายตาเหยียดหยัน สายตาที่เธอมองเขา มันราวกับว่าเธอกำลังเห็นเขาพยายามหลอกลักพาตัวเด็กไม่มีผิด


จิ้งจอกสีเงินเอียงคอของมัน มันมองที่หานเซิ่นด้วยความสงสัย
"ปลา..นู้นตรงนู้น... นาย...ไปจับมันมา...แล้วพวกเรา..จะเอามันมาทำเป็นอาหาร!" หานเซิ่นชี้ไปยังปลาที่กำลังว่ายน้ำอยู่นอกหน้าต่างปราสาทคริสตัล เขาพยายามทำท่าทางให้จิ้งจอกเข้าใจ


แต่เมื่อมันมองผ่านหน้าต่างออกไป มันก็หันกลับมามองหานเซิ่น เมื่อหานเซิ่นปล่อยมันลง มันก็เดินไปที่ขาของหานเซิ่น และก็ใช้หางของมันลูบขาของหานเซิ่นเหมือนปรกติที่มันชอบทำ


"นายเป็นลูกของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด นายควรจะมีเกียรติและศักดิ์ศรีบ้างนะ นายจะทำตัวน่ารักอย่างเดียวไม่ได้ โลกนี้มันโหดร้ายกว่าที่นายคิด นายต้องมีความสามารถในการต่อสู้ด้วย ถ้านายอยากจะอยู่รอดให้ได้ นายเข้าใจใช่ไหม?"
หานเซิ่นพยายามจะอบรมจิ้งจอก เขาชี้ไปที่หน้าต่างอีกครั้ง "ไปจับปลามาให้ฉัน ไม่งั้นคืนนี้นายจะไม่ได้กินอาหาร"


จิ้งจอกสีเงินยังคงทำหน้าตาไร้เดียงสา มันใช้หัวของมันถูกับขาของหานเซิ่น


ไม่นานหานเซิ่นก็ยอมแพ้ เขาหมดหวังที่จะใช้จิ้งจอกไปจับมอนสเตอร์ให้แล้ว เขาอุ้มจิ้งจอกขึ้นมาและพูด "นายทำตัวไร้ประโยชน์มาก" หานเซิ่นตำหนิจิ้งจอกสีเงิน


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา แม้เขาจะไม่สามารถสั่งให้จิ้งจอกไปล่ามอนสเตอร์ได้ แต่ตอนนี้เขามีความคิดดีๆอย่างหนึ่ง


"โอเค ถ้านายไม่ยอมไปล่าก็ไม่เป็นไร! ฉันแค่พานายไปที่เมืองสปิริตก็พอ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกมอนสเตอร์ในเมืองจะวิ่งหนีกันหมดไหมนะ? ถ้ามันวิ่งหนีกันหมด ฉันก็จะไปถึงศูนย์กลางของเมืองได้ไม่ยาก แต่อย่างหนึ่งที่ฉันยังไม่แน่ใจก็คือสปิริตมันจะหนีไปด้วยรึเปล่า ถ้ามันหนีไปฉันก็เอาสปิริตสโตนมาได้ง่ายๆ ฮาฮา! ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ" หานเซิ่นยิ้มจนหน้าบาน ถ้ามันเป็นไปตามที่เขาคิด เขาจะสามารถเอาสปิริตสโตนมาได้อย่างง่ายดาย


"มาจิ้งจอกน้อยน่ารัก ฉันจะทำสเต็กปลาให้นายกิน นายอยากจะลองไหมล่ะ?" หานเซิ่นมีความสุขมาก หลังจากที่เขาคิดวิธีนั้นออก เขาก็กระโดดไปในน้ำ เพื่อไล่จับปลามาทำเป็นอาหารให้จิ้งจอก


เมื่อเห็นจิ้งจอกสีเงินกินสเต็กปลาอย่างช้าๆ หานเซิ่นก็ยิ้ม แต่ตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย "ดีมากเด็กดี! กินให้มากๆ เมื่อนายอิ่มเมื่อไหร่ พวกเราจะออกไปทำงานกัน"


หานเซิ่นล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์ในจำนวนที่เพียงพอสำหรับ 1 เดือน จากนั้นเขาก็ให้เจ้าหญิงเงือกขับปราสาทคริสตัลกลับไปที่ทุ่งน้ำแข้งทันที


หลังจากที่เขากลับขึ้นมาบนบกแล้ว เขาก็อุ้มจิ้งจอกสีเงิน และวิ่งตรงไปที่เมืองสปิริตราชวงศ์ทันที ไม่นานเขาก็ไปถึงที่นั่น


เมืองสปิริตราชวงศ์ยังคงตั้งอยู่อย่างสงบเหมือนปรกติ มีมอนสเตอร์ำจำนวนมากำลังเดินอยู่รอบๆ หานเซิ่นหันมามองหน้าจิ้งจอกสีเงินในมือ เขากระซิบกับมัน "นี่เป็นเวลาของพวกเราแล้ว"


หานเซิ่นยังคงถือจิ้งจอกอยู่ในมือ เขาวิ่งตรงเข้าไปในเมืองสปิริตราชวงศ์ทันที มันเป็นเหมือนที่เขาคาดเอาไว้ มอนสเตอร์ทั้งหมดวิ่งหนีออกไป ไม่มีมอนสเตอร์สักตัวเข้ามาขวางทางเขา พวกมันหนีไปก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ซะอีก


"ฮาฮา! งานนี้ฉันรวยเละแน่" หานเซิ่นรู้สึกดีมากที่เขาเข้ามาในเมืองสปิริตราชวงส์โดยไม่เจอมอนสเตอร์สักตัว เขาสงสัยมากว่าพวกมันไปที่ไหนกัน แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องไปให้ถึงวิหารที่เก็บสปิริตสโตน


หานเซิ่นเข้าไปในวิหารได้อย่างราบลื่น แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด เพราะเขาเห็นสปิริต 2 พี่น้องกำลังยืนอยู่ภายในวิหาร พวกมันไม่ได้วิ่งหนีไปไหนอย่างที่เขาหวังเอาไว้


เมื่อเห็นสปิริตผมเงินและผมบรอนด์ชักดาบออกมา หานเซิ่นก็เรียกวิญญาณอสูรชุดเกราะและกรีฟการ์กอยออกมาทันที จากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรมาสคอตและอสรพิษเนตรเงินออกมา


เคร็ง! เคร็ง! เคร็ง!


สปิริต 2 พี่น้องบุกเข้ามาโจมตีหานเซิ่นเหมือนกับสายฝนกระหน่ำ กระบี่ของพวกเธอกระหน่ำโจมตีเข้ามาจากทุกด้าน ราวกับว่าพวกเธอกำลังพยายามทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนที่หนีไปไหนได้ เขาจะต้องตั้งรับอย่างเดียว


แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจมากก็คือ วิชาดาบของพวกเธอยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ พวกเธอเร็วยิ่งกว่าครั้งแรกที่เขาเคยสู้ด้วย การฟันแต่ละครั้งหนักขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าคงต้านต่อไปได้อีกไม่นาน


สปิริตผมเงินฟันถูกไหล่ของหานเซิ่นจนมีเลือดไหลออกมา แต่ยังโชคดีที่ไม่ใช่จุดสำคัญ ทำให้หานเซิ่นไม่ได้รับความเสียหายเท่าไหร่นัก


หานเซิ่นรู้ว่าวิชาดาบของเขายังไม่สมบูรณ์ 100% และมันยังมีจุดอ่อนบางจุด แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เขาต่อสู้กับสปิริต 2 พี่น้องเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เขาถูกโจมตีหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ต้องเรียกปีกวิญญาณอสูรออกมาและบินหนี


สปิริต 2 พี่น้องไม่สามารถบินได้ และมอนสเตอร์ตัวอื่นๆก็ไม่กล้าเข้าใกล้หานเซิ่นด้วย เพราะตอนนี้เขามีจิ้งจอกอยู่ด้วย ดังนั้นพวกมันได้แต่มองดูหานเซิ่นบินหนีไป


"ไว้ฉันจะกลับมาอีกครั้ง!" หานเซิ่นตะโกนไปที่สปิริต 2 พี่น้อง ขณะที่เขากำลังบินหนี


"นายมันจิ้งจอกไร้หัวใจ ฉันให้อาหารนายทุกวัน ฉันปฏิบัติกับนายเหมือนกับลูกชาย แล้วดูสิ่งที่นายทำสิ นายเห็นฉันบาดเจ็บใช่ไหม? แล้วทำไมนายถึงไม่ช่วยฉัน? นายมันจิ้งจอกตาขาว!" หานเซิ่นโวยใส่จิ้งจอกสีเงินทันที หลังจากที่เขาหนีออกมาได้


ตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าถ้าเขาถูกสปิริตแฝดทำร้าย จิ้งจอกสีเงินจะต้องโกรธและเข้ามาปกป้องเจ้านายอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่มันทำก็แค่ยืนเกาะอยู่บนไหล่ของเขาเฉยๆ มันไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียว


จิ้งจอกสีเงินทำเหมือนกับว่ามันไม่ได้เห็นอะไร แต่กระนั้นมันก็ยังเลียแผลของหานเซิ่น ขณะที่เขากำลังบินหนี เหมือนที่มันเคยทำมาก่อน เกือบจะทันทีหลังจากที่แผลของหานเซิ่นถูกน้ำลายของจิ้งจอก มันก็หายเกือบจะสนิท


แม้จะหงุดหงิดอยู่ แต่หลังจากที่ได้เห็นจิ้งจอกรักษาแผลให้ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรมันต่อ เขายิ้มและลูบหัวของจิ้งจอกสีเงิน


แต่กระนั้นความพยายามของหานเซิ่นก็ไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว เพราะไม่ว่าเขาจะฝึกวิชาดาบคู่หนักแค่ไหน เขาก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบ มันถูกออกแบบมาเพื่อสู้กับสปิริตแฝดโดยเฉพาะ การที่เขาได้มีโอกาสทดสอบใช้งานกับพวกเธอจริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี ตอนนี้เขาจะกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้


เขายังรู้อีกว่าตอนนี้เขาสามารถบินเข้าออกเมืองสปิริตได้อย่างสบายๆ เขาสามารถเข้าไปสู้กับสปิริตแฝดเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ ถ้าเขากลับมาสู้กับเธออีกสัก 3-4 ครั้ง เขาก็คงจะเอาชนะพวกเธอได้ในที่สุด


"ไม่เป็นไร ถ้าครั้งนี้ทำไม่สำเร็จ เราก็จะลองทำมันอีกสัก 10 ครั้ง และถ้ายังไม่สำเร็จ เราก็จะมาลองเป็น 100 ครั้ง" หานเซิ่นตัดสินใจแน่วแน่ หลังจากที่เขาพักฟื้นพลังแล้ว เขาก็วิ่งกลับเข้าไปที่เมืองสปิริต พร้อมกับจิ้งจอกสีเงินอีกครั้ง


ทุกครั้งที่เขาสู้กับสปิริต 2 พี่น้อง เขาจะแพ้ แต่กระนั้นในการต่อสู้แต่ละครั้ง วิชาดาบคู่ของหานเซิ่นก็จะค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ลองพยายามทั้งหลอกล่อและยั่วยุสปิริต แต่พวกเธอก็ไม่ยอมออกมาจากวิหารที่เป็นที่เก็บสปิริตสโตนเลย พวกเธอกลัวว่าถ้าพวกเธอออกไป หานเซิ่นอาจจะแอบเข้ามาทำลายสปิริตสโตน


วิชาดาบของหานเซิ่นค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ เขากลับมาสู้กับสปิริตทุกๆ 2 วัน เมื่อเขาแพ้ เขาก็จะกลับไปรักษาตัว และนั่งคิดว่าทำไมเขาถึงได้แพ้ การที่เขาพยายามแก้ไขจุดผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้เขาค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ


หานเซิ่นเชื่อว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป วิชาดาบคู่ของเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะสปิริตได้ภายใน 1 เดือน


VIPถึงตอนที่ 1615 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGen

ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/