ตอนที่ 398 การค้นพบสุดช็อค


หนิงเยวี่ยเดินลงไปในบ่อน้ำแห่งการวิวัฒนาการ จริงๆแล้วตามแผนเดิมหนิงเยวี่ยยังไม่คิดจะวิวัฒนาการเร็วๆนี้ เขายังมีเรื่องที่ต้องทำในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 อีกมาก ถ้าวิวัฒนาการแล้วเขาจะอยู่นานไม่ได้ เพราะร่างกายอาจจะได้รับความเสียหายอย่างถาวร


แต่อย่างไรก็ตามหนิงเยวี่ยก็เลือกที่จะวิวัฒนาการในตอนนี้เลย เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับหานเซิ่นมากมาย เขารู้สึกว่ามันมีค่าพอที่จะให้เขาวิวัฒนาการตอนนี้ ถึงเขาจะเรียกตัวผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิเต็มมาถึง 13 คนจากเมืองต่างๆมาแล้วก็ตาม หนิงเยวี่ยก็ยังเลือกที่จะวิวัฒนาการด้วยตัวเองด้วย หนิงเยวี่ยไม่ต้องการให้หานเซิ่นมีโอกาสรอดชีวิตอีกต่อไป ถ้ายิ่งหานเซิ่นอยู่นานยิ่งเป็นอันตรายสำหรับกลุ่มสตาร์รี่ หนิงเยวี่ยจึงตัดสินใจทำภารกิจนี้ด้วยตัวเอง


แม้กลุ่มสตาร์รี่จะมีอิทธิพลและอำนาจมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับคนของหน่วยพิเศษได้ โดยเฉพาะคนที่สนิทกับซินเสวียนอย่างหานเซิ่น หนิงเยวี่ยไม่อยากจะทำอะไรหานเซิ่นที่ดวงดาว ดังนั้นเขาต้องทำมันในก็อตแซงชัวรี่แทน


ในบ่อน้ำแห่งการวิวัฒนาการร่างกายของหนิงเยวี่ยค่อยๆเปลี่ยนไป ระดับความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นจากการวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ คนอื่นๆอาจจะรู้จักเซินเทียนจื่อขณะที่มีแค่ไม่กี่คนที่จะรู้ว่าหยิงเยวี่ยคือคนที่มีพรสวรรค์มากที่ในบรรดาคนรุ่นเดียวกันของตระกูลหนิง


แม้ว่าเขาจะมีสภาพร่างกายที่ไม่ดี แต่หนิงเยวี่ยก็เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถฝึกวิชาดาบของตระกูลได้สำเร็จ


ก่อนที่ก็อตแซงชัวรี่จะถูกค้นพบ บรรพบุรุษของตระกูลหนิงคือสุดยอดปรมาจารย์ดาบ วิชาดาบของพวกเขาแทบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน มันเป็นวิชาที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณ


หลังจากที่ก็อตแซงชัวรี่ถูกค้นพบ วิชาของพวกเขาก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก


อย่างไรก็ตามหนิงเยวี่ยก็ไม่คิดเช่นนั้น แม้วิชาของพวกเขาจะได้รับดัดแปลงให้เป็นวิชาไฮเปอร์จีโนแล้วก็ตาม หลายคนบอกว่ามันแข็งแกร่งขึ้น แต่หนิงเยวี่ยไม่คิดว่ามีใครในตระกูลที่มีวิชาดาบที่ร้ายกาจไปกว่าปู่ทวดของเขา ซึ่งเป็นคนที่คิดค้นมันขึ้นมา


ตอนที่หนิงเยวี่ยยังเล็ก เขาละทิ้งวิชาไฮเปอร์จีโนต่างๆ และยืนกรานที่จะฝึกวิชาดาบแบบเก่า


ในตอนที่เขาเริ่มฝึกใหม่ๆ วิชาดาบของเขาก็เทียบไม่ได้กับวิชาดาบที่ตระกูลของเขาพัฒนาขึ้นมา แต่หนิงเยวี่ยก็ไม่เคยสงสัยในการตัดสินใจของตัวเอง เขามุ่งมั่นฝึกต่อไป ผ่านมาอีก 2 ปี ในที่สุดหนิงเยวี่ยก็สำเร็จวิชาดาบแบบโบราณ เขารู้สึกว่าพวกวิชาที่ได้รับการดัดแปลงมาทีหลังยังมีจุดด้อยอยู่มาก และเทียบกับวิชาแบบโบราณไม่ได้


เดิมทีหนิงเยวี่ยคิดว่าคงไม่มีใครในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 มีค่าพอให้เขาใช้วิชาดาบ แต่หลังจากที่พบหานเซิ่น หนิงเยวี่ยก็เปลี่ยนความคิด


หนิงเยวี่ยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหานเซิ่นมากมาย หานเซิ่นแข็งแกร่งมาก ถ้าเขาเป็นผู้วิวัฒนาการตั้งแต่ตอนที่พวกเขาพบกัน เขาก็อยู่ก็อตแซงชัวรี่เขต 1 นานเกินไปแล้ว ร่างกายเขาน่าจะได้รับความเสียหายบ้าง


แต่เนื่องจากเขายังไม่เป็นอะไร แสดงว่าเขายังไม่วิวัฒนาการ แต่เขากับแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น ระดับของเขาเหนือกว่าผู้ยังไม่วิวัฒนาการมาก ความเป็นไปได้เดียวที่หนิงเยวี่ยพอจะคิดได้ก็คือหานเซิ่นน่าจะได้รับจีโนพ้อยขั้นสุดยอดแล้ว


หนิงเยวี่ยยังสงสัยด้วยว่ามีดของหานเซิ่นอาจจะเป็นมีดที่มีระดับเหนือกว่าเลือดศักดิ์สิทธิ ไม่อย่างงั้นแล้วทำไมมันถึงได้คมขนาดนั้น?


แต่กระนั้นหนิงเยวี่ยก็ยังไม่กล้าจะฟันธงลงไป เขาไม่ใช่คนเดียวที่กำลังไล่ล่าหาสุดยอดยีนอยู่ และหนิงก็ไม่ใช่ตระกูลเดียวที่ทำเรื่องนี้ด้วย หนิงเยวี่ยไม่ต้องการให้กลุ่มอื่นๆพบตัวหานเซิ่น


ดังนั้นหนิงเยวี่ยจึงตัดสินใจที่จะยอมวิวัฒนาการก่อนเวลา เพื่อแลกกับการล้วงความลับจากหานเซิ่นให้ได้


หนิงเยวี่ยไม่ต้องการให้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ดังนั้นเขาเลยใช้เส้นสายทั้งหมดที่มี เพื่อรวบรวมยอดนักสู้ที่มีจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิเต็มมา และให้พวกเขาวิวัฒนาการ


หนิงเยวี่ยต้องใช้เวลาในการเตรียมการทุกอย่างนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรในช่วงนี้ เขากำลังรอคอยโอกาสอยู่


หลังจากที่ได้อ่านข่าวว่าหานเซิ่นเอาชนะสิงโตสีทองได้ หนิงเยวี่ยก็ยิ่งมั่นใจว่าหานเซิ่นต้องได้รับจีโนพ้อยขั้นสุดยอดแล้วแน่ๆ


...


ตัดกลับมาที่หานเซิ่น ตอนนี้เขากำลังฝึกอยู่ในโรงฝึกที่ 7 ของชมรมวอเฟรมหนัก เขาลองเรียกวิญญาณอสูรโกลเด้นโกรวเลอร์ออกมาดู และพบว่ามันคือสัตว์ขี่ สัตว์ขี่ระดับขั้นสุดยอดไม่ใช่แค่รวดเร็วอย่างเดียว แต่มันยังสามารถขยายหรือย่อขนาดตัวได้ตามต้องการ


หานเซิ่นสามารถสั่งให้โกลเด้นโกรวเลอร์มีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาลูกย่อมๆหรือจะมีขนาดเท่าช้างหรือเล็กกว่านั้นก็ได้


ยิ่งกว่านั้นโกลเด้นโกรวเลอร์มีร่างกายที่แข็งแกร่งทนทาน และยังแบกรับน้ำหนักได้มาก ซึ่งมันเป็นสัตว์ขี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด หานเซิ่นยังคิดอยู่ว่าโกลเด้นโกรวเลอร์มีความสามารถอื่นอีกหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจนัก


หานเซิ่นกำลังลองขี่โกลเด้นโกรวเลอร์ในโรงฝึกที่ 7 เขารู้สึกประทับใจมาก มันขี่ได้สบายเหมือนกับนั่งอยู่บนยานเหาะไม่มีผิด ถึงจะให้มันวิ่งด้วยความเร็วสูงก็ตาม


"เอาไว้มีโอกาส เราน่าจะพาเหยียนหรันมาขี่มันดูบ้าง!" หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้น ในหัวของเขากำลังคิดว่าบางทีเขาจะขี่มันกับจีเหยียนหรัน และทำเรื่อง 18 + ด้วยกันบนหลังสิงโต


"มันจะน่าตื่นเต้นขนาดไหน ถ้าเราทำมันบนหลังสิงโตที่กำลังวิ่ง?" หานเซิ่นกำลังจินตนาการ


หลังจากลองขี่มันจนพอใจแล้ว หานเซิ่นก็เรียกโกลเด้นโกรวเลอร์กลับ และไปหาข้อมูลในเน็ตต่อ


หลังจากหาข้อมูลจนพอใจแล้ว หานเซิ่นก็เปิดคัมภีร์ที่ได้มาจากถ้ำ เขาลองใช้คอมสแกนมัน และก็ให้เครื่องลองแปลภาษา


จริงๆแล้วภาษาแบบโบราณเครื่องสามารถแปลมันให้เป็นภาษาปัจจุบันได้ไม่ยาก หานเซิ่นลองดูเนื้อหามันอย่างละเอียด


ในตอนแรกหานเซิ่นก็รู้สึกผ่อนคลาย แต่หลังจากอ่านไปชั่วครู่ใบหน้าหานเซิ่นก็เริ่มเคร่งเครียด ไม่นานหานเซิ่นก็ช็อค ในตอนจบเขาอ้าปากคาง หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขียนอยู่ในคัมภีร์ว่ามันคือเรื่องจริง


"บ้าน่า นี่มันจะเป็นไปได้งั้นหรอ?" หลังจากอ่านเนื้อหา หานเซิ่นก็ต้องตกใจ แต่เมื่อเขาลองคิดเกี่ยวกับสภาพที่แปลกประหลาดของร่างชายคนนั้นแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้


"ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ทั่วทั้งสหพันธ์ดวงดาวจะต้องช็อคแน่ๆ มันขัดแย้งกับความรู้ของพวกเรา" หานเซิ่นไม่สามารถสงบตัวเองลงได้ ขณะอ่านข้อความ


ตามข้อความที่แปลมา เจ้าของคัมภีร์คือชายที่ตายในถ้ำ เขาเป็นคนที่มาจากยุคโบราณ เป็นยุคสมัยที่อาวุธทำจากเหล็กแบบหยาบๆ พวกเขาไม่มีแม้แต่กระแสไฟฟ้า ไม่ต้องถูกถึงเรื่องเครื่องเทเลพอร์ต ชายคนนั้นเดินทางมาที่ก็อตแซงชัวรี่ด้วยการเทเลพอร์ตด้วยตัวเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก และยังไม่นับที่เขามาตั้งแต่ยุคโบราณ แต่ร่างกายของเขายังดูเกือบจะสมบูรณ์เหมือนคนที่ตายได้ไม่นาน


VIPถึงตอนที่ 1236  เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/
ตอนก่อนหน้า รวมตอน ตอนถัดไป
เวลาลงนิยายคือ 14.00-19.00 ของทุกวันครับ
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/