ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ตอนที่ 383 มนุษย์กลุ่มเเรกในก็อตเเซงชัวรี่
หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว คนที่เหลือในกลุ่มก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต้องการจะฆ่าจูถิงทิ้ง แต่หานเซิ่นก็หยุดพวกเขาไว้ พวกเขาหันมาถามหานเซิ่น "คุณหาน คุณกำลังทำอะไร?"
ถ้าไม่ใช่เพราะหานเซิ่นช่วยชีวิตพวกเขาไว้ พวกเขาคงจะฆ่าหานเซิ่น ไปพร้อมๆกับจูถิงแล้ว เพื่อระบายความแค้น
"ฉันสัญญากับเขาไว้ว่าจะไว้ชีวิตเขา" หานเซิ่นหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อ "ยิ่งกว่านั้นพวกนายก็ควรจะถามนายของพวกนายก่อนที่จะฆ่าเขา"
เหตุผลที่หานเซิ่นไว้ชีวิตจูถิงก็เพราะเขาต้องการจะดูว่าหนิงเยวี่ยจะทำอะไรหรือพูดอะไรกับจูถิงบ้าง ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาได้ข้อมูลมากขึ้น
เขายังคงสงสัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุของพ่อเขา สำหรับเขามันเป็นเรื่องที่ลึกลับ และต้องหาคำตอบให้ได้
ไม่งั้นเขาจะไม่มีทางปล่อยจูถิง รวมถึงหยางหย่งเฉิงและคนอื่นๆที่เหลือให้รอดชีวิตกลับไป
แต่อย่างไรก็ตาม หานเซิ่นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้รอบคอบ อย่างแรกเขาต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าหนิงเป็นศัตรูของเขาจริงๆหรือเปล่า
มีสิ่งที่ทำให้หานเซิ่นสับสนอยู่ ด้วยอิทธิพลของกลุ่มสตาร์รี่ มันง่ายมากที่พวกเขาจะมาสืบข้อมูลของตระกูลหาน ถ้าปู่ทวดของเขารู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดจริง มีหรือกลุ่มสตาร์รี่จะไม่รู้เรื่องนี้?
หรือบางทีพวกเขาอาจจะรู้จักกับปู่ทวดของหานเซิ่น แต่เกิดเรื่องขัดแย้งกันภายหลัง เลยหาทางกำจัดตระกูลหานให้พ้นทาง แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมพ่อของหานเซิ่นถึงได้บอกให้เขาไปขอความช่วยเหลือจากหนิง?
หานเซิ่นไม่คิดว่าพ่อของเขาคือคนโง่ มันตรงกันข้ามเลยเท่าที่เขาจำได้ พ่อของเขาเป็นคนที่ใจเย็น และฉลาดมากอีกด้วย ไม่งั้นเขาคงจะไม่มีทางบริหารกิจการขนาดเล็กให้เติบโตเป็นธุรกิจ 100 ล้านได้ ถึง 100 ล้านจะไม่ใช่จำนวนเงินที่มากมายในยุคนี้ แต่เขาก็สามารถทำเงินได้มากขนาดนั้นทั้งๆที่ไม่มีคนใหญ่คนโตหนุนหลังเลย
"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ทำตามที่คุณหานบอกก็แล้วกัน" หยางหย่งเฉิงหยุดคนอื่นๆที่เหลือ
กลุ่มของพวกเขามุ่งหน้ากลับเมืองทันที พวกเขาจับตัวจูถิงในฐานะนักโทษ พวกเขาสบถด่าจูถิงไปตลอดการเดินทาง ทำให้หานเซิ่นเบื่อที่จะได้ยินมัน มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าจูถิงจะเป็นสปาย
"หานเซิ่น คุณจะช่วยผมจริงๆไหมเนี่ย?" จูถิงพยายามขยับตัวเข้ามาใกล้หานเซิ่นขณะที่ถูกมัด และกระซิบ
"คุณสนใจจะร่วมมือกับผมไหม?" จูถิงพูดต่อ
เมื่อเห็นหานเซิ่นยังไม่ตอบสนอง จูถิงก็กระซิบต่อ "อย่าให้มีดกับหนิงเยวี่ยเป็นอันขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่งั้นคุณจะต้องตาย"
หานเซิ่นมองดูจูถิง แต่เขาไม่พูดอะไร
"เหนือกว่ายีนเลือดศักดิ์สิทธิ ยังมีสุดยอดยีนอยู่ ตลอด100 ปีที่ผ่านมาทั้งตระกูลของผมและตระกูลหนิงต่างก็ทุ่มงบประมานไปมหาศาลเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้ แต่กระนั้นจนถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังไม่รู้อะไรเลย และอาวุธอันเดียวที่พอจะฆ่ามอนสเตอร์ที่เหนือกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ก็คือมีดในมือคุณ หนิงเยวี่ยต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา ตราบใดที่คุณยังมีมีดอยู่ คุณก็ยังอยู่ต่อไปได้ แต่ถ้าไม่มี คุณก็จะต้องตายสถานเดียว.." จูถิงร่ายยาว
"เนื่องจากยังไม่มีใครฆ่ามอนสเตอร์พวกนั้นได้ แล้วทำไมนายถึงได้รู้ว่ามันมีสุดยอดยีนอยู่?" หานเซิ่นพยายามสงบตัวเองไว้และถาม
"ผมบอกไปแล้ว เมื่อก่อนบรรพบุรุษของผมเคยร่วมงานกับหนิงมาก่อนในองค์กรลับบางอย่าง คุณรู้ไหมว่าองค์กรนั้นมีชื่อว่าอะไร?"
ถึงจูถิงจะถามหานเซิ่น แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ เขาลดเสียงของตัวเองลง และพูดต่อ "องค์กรนั้นถูกเรียกว่า Secret Service ในตอนที่เทคโนโลยีเทเลพอร์ตถูกสร้างขึ้นมาเป็นครั้งแรก องค์กรนี้เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ ซึ่งพวกเขาเป็นคนที่เหลือข้อมูลเกี่ยวกับสุดยอดยีนเอาไว้ให้พวกเรา"
หานเซิ่นยังคงพยายามสงบตัวเอง และกระซิบกับจูถิง "นั่นมันจะเป็นไปได้หรอ? ในยุคนั้นมนุษย์ยังไม่สามารถฆ่าได้แม้แต่มอนสเตอร์ระดับล่างเลยด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาจะได้รับสุดยอดยีนมาได้ยังไง?"
"เรื่องนี้ผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ยังไงพวกเขาก็ทิ้งข้อมูลไว้ให้พวกเขา ไม่งั้นตระกูลเฉินและหนิงคงไม่พยายามกันมากขนาดนี้เพื่อค้นหาสุดยอดยีน คุณจินตนาการไม่ออกหรอกว่าพวกเราใช้เงินไปมากมายแค่ไหนในตลอดหลายปีที่ผ่านมา"
"แล้วมีข้อมูลอะไรที่พวกเขาเหลือไว้บ้าง?" หานเซิ่นถาม
"ข้อมูลมีอยู่อย่างจำกัดมาก คนในองค์กรลับส่วนมากตายในก็อตเเซงชัวรี่ มีไม่กี่คนที่รอดชีวิตกลับมาได้ และหลังจากที่พวกเขาเทเลพอร์ตกลับมา พวกเขาก็ตายในเวลาเดียวกันโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่พวกเขาจะตาย พวกเขาตื่นเต้นกับการค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่าง เหมือนพวกเขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าความตายกำลังจะมาเยือน พวกเราพบเบาะแสบางอย่างที่พวกเขาเหลือเอาไว้ให้เเต่มันเป็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ "
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เหมือนว่าสิ่งที่จูถิงพูดมาลงล็อคกับสิ่งที่เขารู้มาพอดิบพอดี แต่กระนั้นมันก็เหมือนมีบางอย่างที่ดูผิดปรกติ
"ผมมันก็แค่ส่วนเกินของตระกูลเลยไม่รู้อะไรมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่ผมมั่นใจก็คือตระกูลของคนที่รอดชีวิตกลับมา พวกเขาทั้งหมดกำลังตามหาสุดยอดยีนกันอยู่ในตอนนี้" จูถิงพูด
"แล้วนายต้องการอะไรจากฉัน ถึงได้พูดเรื่องนี้มา?" หานเซิ่นถามจูถิง
จูถิงทำหน้าตาน่ากลัวและพูด "อย่าห่วงเลย ตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไรจากคุณแล้ว ผมบอกเรื่องนี้ก็เพื่อทำให้คุณเข้าใจว่าอย่าให้มีดตกไปอยู่ในมือของหนิงเยวี่ย และมันจะดีกว่าถ้าคุณไม่ไปพยายามฆ่ามอนสเตอร์ตัวนั้น ถ้าคุณทำก็อย่าให้หนิงเยวี่ยรู้เกี่ยวกับมันเป็นอันขาด ถ้าตระกูลหนิงมีความสามารถในการฆ่ามอนสเตอร์พวกนั่นได้เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นคุณคิดว่าคุณจะรอดงั้นหรอ จะมีใครที่จะมีปัญญาไปต่อกรกับพวกเขา เมื่อพวกเขาได้สุดยอดยีนมาอยู่ในมือ?"
หานเซิ่นเข้าใจว่าจูถิงต้องการอะไร เขาพูดเรื่องทั้งหมดนี้มาก็เพื่อไม่ให้เขาไปช่วยหนิงเยวี่ย
แต่ดูเหมือนว่าความกังวลของจูถิงจะไม่จำเป็น เพราะหานเซิ่นไม่เคยคิดจะไปช่วยหนิงเยวี่ยฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเลย หานเซิ่นเข้าใจทุกอย่างที่จูถิงพยายามจะสื่อ
หานเซิ่นถามจูถิงอีก 2-3 คำถาม แต่จูถิงก็ไม่พูดอะไรมากอีก เขาไม่ได้ขอให้หานเซิ่นช่วยเขาอีกต่อไป ดูเหมือนเขาจะทำใจได้แล้ว ไม่นานจูถิงก็หมดสติไป